28.1.51

"4 จุดเด่นบนใบหน้า


ใบหน้าทุกคนมีส่วนประกอบเหมือน ๆ กัน เรามารู้จักจุดเด่น ๆ บนใบหน้า และเสริมให้สิ่งที่เด่น ดูสวยงามได้ด้วยตัวเราเองกันดีมั้ยค่ะ


ในส่วนต่างๆ ของใบหน้า คิ้ว ตา แก้ม และปาก ถือเป็นจุดเด่นที่สุดของใบหน้า ดังนั้นการแต่งสวย เติมแต่ง จุดดังกล่าว จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง และประการสำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ จุดที่ว่านี้เป็นจุดที่มองเห็นได้ชัด เพราะฉะนั้น ผู้เขียนมีหลักการเลือกใช้สีสันเครื่องสำอางมาแต่งแต้มให้ 4 จุดเด่นของใบหน้างามเด่นชัดน่ามองมากยิ่งขึ้นครับ
จุดที่ 1 เปลือกตา เป็นส่วนของใบหน้าที่สามารถใช้สีสันของอายแชโดว์ ได้หลากหลายที่สุด สำหรับสาวไทยส่วนใหญ่ที่มีสีผิวออกเหลือง การเลือกใช้อายแชโดว์ในกลุ่มโทนร้อน จึงเหมาะสมที่สุดครับ ซึ่งสีที่ว่านี้ได้แก่ สีส้ม น้ำตาล ทอง สีเบท เป็นต้น แต่ใช่ว่าจะไม่สามารถเลือกทาอายแชโดว์กลุ่มสีโทนเย็นไม่ได้นะครับ ก็สามารถทาได้อยู่ แต่ทั้งนี้เพื่อให้สีสันออกมาดูดีและตรงกับสีผิวของสาวไทยมากที่สุด คุณผู้อ่านควรหัดผสมสีอายแชโดว์ให้ได้สีที่ออกมากลมกลืน และได้สีตามที่เราต้องการ อย่างเช่น ทาอายแชโดว์สีเบท (โทนร้อน) เป็นสีไฮไลน์ทั่วเปลือกตา จากนั้นตามด้วยสีเทาเงิน (โทนเย็น) ไล่จากขอบตาบนขึ้นไปเหนือตาพับ ใช้อายแชโดว์สีน้ำตาลเข้มออกดำ (โทนร้อน) ตัดบริเวณหางตา เกลี่ยให้สีกลมกลืมกัน ซึ่งการแต่งตาลักษณะนี้เรียกว่าการแต่งตารูปแบบ วี-เชป(V-Shape) ซึ่งจะทำให้ตาดูโตมากขึ้น แต่การแต่งในลักษณะนี้มีความยากกว่าการแต่งตากลม คือต้องไล่ระดับสีให้กลมกลืนกันทั้งสองข้าง และที่สำคัญสีอายแชโดวที่นำมาตัดบริเวณหางตาต้องเกลี่ยให้เนียนไม่มีรอยเส้น สำหรับการแต่งเปลือกตาให้ออกมาสวยงามนั้นนั้นนอกเหนือจากการเลือกใช้อายแชโดว์แล้ว การดัดขนตา ปัดมาสคาร่า ก็ถือว่าเป็นจุดสำคัญเช่นกัน วิธีการดัดขนตาที่ถูกต้อง คุณผู้อ่านต้องเลือกซื้อเลือกใช้ที่ดัดขนตาที่มีแผ่นรองรับเป็นยางหรือซิลิโคนเท่านั้น ถ้าเป็นไปได้ผู้เขียนขอแนะนำว่าควรเลือกใช้แบบซิลิโคนจะเป็นการดีครับ เพราะเวลาดัดขนตาจะไม่หักงอ แต่ที่ตัดขนตาที่ว่านี้จะมีราคาค่อนข้างแพง แต่รับรองครับว่าคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปแน่นอนครับ……ขั้นตอนการดัดขนตาที่ถูกต้อง ถ้าขนตาสั้นควรตัดขนตา 2 ขั้นตอน คือชิดขอบตาและปลายขนตา ส่วนคนที่มีขนตายาวต้องดัด 3 ขั้นตอน คือ ชิดขอบตา กึ่งกลาง และปลายขนตา การเลือกใช้มาสคาร่าในการปัดขนตาผู้เขียนแนะนำว่าควรเลือกใช้มาสคาร่าสีดำกันน้ำ เวลาใช้ควรปัดมาสคาร่าที่ขนตาล่างก่อน จากนั้นค่อยปัดขนตาบน ถ้ามาสคาร่าเปรอะเลอะขอบตา ปล่อยให้แห้งจากนั้นใช้คัตตั้มบัด สะกิดจุดดังกล่าวออก ซึ่งการกระทำดังกล่าวนี้มาคาร่าจะออกง่ายและไม่เลอะมากยิ่งขึ้น
จุดที่ 2 คือ คิ้ว การแต่งคิ้วให้สวยเป็นธรรมชาตินั้นถือว่าแต่งได้ยาก แต่ก็ไม่ยากอย่างที่คิดถ้าคุณผู้อ่านท่านใดที่มีโครงคิ้วและขนคิ้วที่สวยอยู่แล้วเพียงแค่กันขนคิ้วที่ขึ้นเกะกะ ให้เป็นระเบียบจากนั้นใช้มาสคาร่าสีน้ำตาลปัดขนคิ้วเบาๆ ให้เข้ารูปทรง ก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้ามีเนื้อคิ้วที่น้อย การแต่งคิ้วให้เป็นธรรมชาติ ผู้เขียนแนะนำว่าควรใช้อายแชโดว์สีน้ำตาลไล้เบาๆ ไม่ควรเขียนคิ้วให้เป็นแท่ง หรืออเป็นเส้น เพราะแลดูไม่เป็นธรรมชาติ และที่สำคัญความเข้มของคิ้วต้องอยู่บริเวณหางคิ้ว และความยาวของคิ้วไม่เกินหางตา
จุดที่ 3 คือ แก้ม การแต่งแก้ม ณ ปัจจุบันนี้เน้นความระเรื่อแลดูมีเลือดฝาด สุขภาพผิวดี วิธีแต่ง เลือกใช้ปลัชออนสีชมพู หรือสีส้มโดยเริ่มปัดปลัชออนจากบริเวณจอนผมปัดเข้ามาหาจมูก อยู่ตรงบริเวณกึ่งกลางตาตำ จากนั้นเกลี่ยสีบลัชออนกลับในแนวทางเดียวกันให้สีของบลัชออนหายเข้าไปในแนวจอนผม โดยเกลี่ยให้สีกระจายสม่ำเสมอ ถ้าสีบรัชออนมากเกินไปหรือเข้มเกินไป วิธีแก้ใช้พัฟที่มีแป้งฝุ้นติดอยู่กดซับเบาๆ ก็จะช่วยลดสีของบัชออนลงได้ครับ
จุดที่ 4 คือปาก การแต่งปาก ให้ออกมาสวยงามนั้น ลิปสติก ถือเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยเสริมให้เรียวปากสวยน่ามองยิ่งขึ้น สำหรับสีลิปสติกที่จะเลือกมาแต่งแต้มให้ริมฝีปากนั้นก็สามารถเลือกสีได้ตามใจชอบครับ ถ้าเป็นสาวมั่น สีแดงสด น้ำตาลเข้ม สีม่วงอมแดง จะเหมาะกับคุณมากที่สุด แต่ ถ้าเป็นคนที่ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองก็เลือกสีลิปสติกอ่อนๆ จะเป็นการดี ที่สุดครับ หรือจะเลือกใช้ลิปกลอสทาให้ริมฝีปากออกสีระเรื่อ แค่นี้ก็อินเทรนด์สุดๆ แล้วครับ แต่ทั้งนี้ต้องดูโอกาสและสถานที่ด้วยนะครับ
การแต่งหน้าให้มีสีสันไม่ใช่เพียงแค่นำสีสันของเครื่องสำอางมาละเลงบนใบหน้า ให้เกิดสีสันเท่านั้น ซึ่งทุกวันนี้ผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะปฏิบัติอย่างที่ผู้เขียนกล่าวมาข้างต้น โดยไม่คำนึงว่าสิ่งที่แต่งอยุ่ทุกวันนี้มันช่วยสร้างให้ตัวคุณสวยขึ้นหรือแย่กว่าเติม เพราะฉะนั้นการเรียนรู้การแต่งหน้าที่ถูกวิธี ถือว่าเป็นหัวใจหลักในการเสริมความงามให้คุณสวยมากยิ่งขึ้น


แหล่งที่มา » mcot

ไม่มีความคิดเห็น: